

เฟรด เอสเปนัค ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดวงจันทร์และจันทรุปราคา จากศูนย์การบินอวกาศกอดดาร์ด ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) เปิดเผยว่า วันคริสต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคมของปีนี้ จะเป็นวันพิเศษกว่าคริสต์มาสทั่วไปโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่สนใจปรากฏการณ์บนท้องฟ้า
เพราะคริสต์มาสปีนี้นอกจากพระจันทร์จะเต็มดวงแล้ว ดวงจันทร์ที่เราเห็นจะมีขนาดใหญ่ที่สุดอีกด้วย
วันคริสต์มาสที่พระจันทร์เต็มดวงครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1977 หรือเมื่อ 38 ปีที่แล้ว และทางนาซา ระบุว่ากว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งก็ต้องเป็นปี 2034 หรือต้องรออีก 19 ปี
แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตามข้อมูลของนาซา พระจันทร์เต็มดวงในวันคริสต์มาสโดยเฉลี่ยแล้วจะเกิดขึ้น 2 ครั้งในทุกๆ 59 ปี
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากแม้ว่าพระจันทร์เต็มดวงจะเกิดขึ้นเดือนละครั้ง แต่ระยะเวลาของการเกิดพระจันทร์เต็มดวงจะเคลื่อนไปจากเดิมตามกาลเวลา เพราะเดือนหนึ่งนั้นโดยเฉลี่ยแล้วจะเท่ากับ 30.44 วัน ในขณะที่ดวงจันทร์จะหมุนรอบโลกครบรอบใช้เวลาเฉลี่ยแล้ว 29.53 วันเท่านั้น
ซึ่งหมายความว่าพระจันทร์เต็มดวงจะเกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะครบเดือนถัดไปเกือบ 1 วันเต็ม หรือ ถ้าเดือนนี้พระจันทร์เต็มดวงในวันที่ 25 เดือนถัดไปก็จะเต็มดวงในวันที่ 24 เป็นต้น
ดังนั้น กว่าพระจันทร์เต็มดวงจะมาลงเอยในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคริสต์มาสเหมือนในปีนี้ก็ต้องใช้เวลานานไม่น้อยนั่นเอง
0 comments:
Post a Comment